Three things to cultivate สามสิ่งควรกระทำให้มี Good book Good Freind Good Humour หนังสือดี เพื่อนดี จิตใจดี

วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2551

อัญมณีประจำเดือนเกิด

อัญมณีประจำเดือนเกิด
สำหรับผู้ที่เกิดในเดือนมกราคม อัญมณีประจำเดือนเกิดของท่านคือพลอยการ์เนต (Garnet) หรือ พลอยโกเมนซึ่งเชื่อกันว่าเป็นอัญมณีแห่งความมั่นคง ความน่าเชื่อถือและ ความงดงาม ในสมัยอียิปต์โบราณเชื่อกันว่า อัญมณี ชนิดนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งการมีชีวิต (Symbol of Life) และยังมีความเชื่ออื่นๆ อีก เช่น โกเมนเป็นอัญมณีแห่งแสงสว่างโนอาห์ได้ใช้ แขวนไว้ ในเรือ เพื่อใช้ส่องสว่างหรือเชื่อว่าอัญมณีชนิดนี้ สามารถใช้ในการรักษาโรคได้ เป็นต้นการ์เนต (Garnet) มีรากศัพท์มาจากภาษาละติน“Granatum”หรือ “Granatus”หมายถึงเมล็ดสี แดง ของผลทับทิม ทั้งนี้ก็เพราะว่า อัญมณีชนิดนี้มีสีแดง คล้ายกับเมล็ด ของผล ทับทิม และมักจะพบผลึก ของ อัญมณีชนิดนี้ฝังอยู่ในเนื้อหิน โดยมีลักษณะ คล้าย การฝังตัว ของ เมล็ดในผลทับทิมโดยธรรมชาตินั้น การ์เนต(Garnet)มีอยู่หลายสียกเว้นสีน้ำเงิน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแร่ที่เป็นองค์ประกอบอยู่ในเนื้อหิน แต่สีที่พบมากที่สุด คือ สีแดง ชนิด ไพโรป (Pyrope) คำว่าไพโรป นี้มาจากภาษา กรีก แปลว่า “ เหมือนไฟ ”

นอกจากนี้ยังมีชนิด อัลมานไดน์ “Almandine” มีสีแดง อมน้ำตาล (Brownish-red) ,สเปซซาไทต์ หรือ สเปซซาไทน์ “Spessatite or Spessartine” มีสีส้มจนถึงสีแดงอมส้ม, อัมบาไลต์“Umbalite” สีม่วงอมชมพู(Light pinkish-purple)ซึ่งเป็น การ์เนตที่มีส่วนผสมของไพโรป, อัลมานไดน์ และ สเปซซาไทน์ สำหรับ ในประเทศไทย เราจะเรียก อัญมณีนี้ว่า “โกเมน” ซึ่งหมายถึง การ์เนตชนิด สีแดงนั่นเอง ปัจจุบัน การ์เนตที่มีสีเขียว “Uvarovite or Tsavorite”กำลังเป็น ที่นิยม อยู่เหมือนกัน

อัญมณีแห่งความจริงใจ และความมีสติ คือพลอยประจำเดือนเกิด ของคนเดือน กุมภาพันธ์อเมทีสต์เป็นอัญมณี สีม่วงเหมือนดอกตะแบกซึ่งจัดอยู่ในแร่ตระกูลควอทซ์ (Quartz) อัญมณีชนิด นี้ มีการค้นพบว่ามีการ ใช้งานในประเทศจีนมากว่า 8,000 ปี มาแล้ว อเมทีสต์ (Amethyst) มาจากภาษากรีก (Amethystos) แปลว่า “ไม่ทำให้เมา”ซึ่งก็น่าจะมาจากนิยาย กรีก โบราณ ที่เล่าต่อกันมา เกี่ยวกับ “แบคคัส” (Bacchus) เทพเจ้าแห่ง เหล้าองุ่น (The Godof Wine) รู้สึกโกรธแค้นที่ถูกเทพธิดาไดอาน่า ทอดทิ้งจึงได้สาปแช่งว่า ผู้ใดก็ตามที่ ผ่านเข้ามา จะต้องถูกเสือของเขาจับกิน วันหนึ่งมีหญิงสาวบริสุทธิ์ นางหนึ่งชื่อว่า อเมทีสต์เดินทาง ผ่านมาเพื่อที่จะไปสักการะเทพธิดาไดอาน่า ได้ถูกเสือของแบคคัส ตรงเข้า ทำร้าย อเมทีสต์ เห็น ดังนั้น จึงได้ร้องตะโกน เพื่อขอให้ เทพธิดาไดอาน่า ที่นางนับถือช่วยเหลือ เทพธิดาไดอาน่าจึงได้เปลี่ยนร่างของหญิงสาวให้กลายเป็นผลึกหิน ควอทซ์ ที่ใสบริสุทธิ์ เพื่อให้ รอดพ้นจากเขี้ยวเล็บของ เสือ แบคคัสเห็นดังนั้นก็รู้สึกเสียใจในการกระทำของพระองค์เองจึงนำ เหล้าองุ่นเทลงบนแห่งผลึก หิน ควอทซ์อเมทีสต์ โดยปล่อยให้ส่วนขาและเท้าของเธอ ยังเป็น ส่วนที่ ใสอยู่นี่เองจึงเป็นที่มาของ ชื่อเรียกอัญมณีชนิดนี้ว่า อเมทีสต์ และลักษณะของแร่อเมทีสต์ที่พบในธรรมชาติก็จะมีลักษณะใส ตรงบริเวณโคนผลึกและจะมีส่วนที่เป็นสีม่วง บริเวณกลางจนถึงปลายผลึก

อัญมณีแห่งความกล้าหาญ คือ อัญมณีประจำเดือนเกิดของผู้ที่เกิดในเดือนมีนาคม อะควอมารีน เป็นอัญมณีสีฟ้า อมเขียว (Greenish-Blue) จนถึงสีเขียวอมฟ้า (Bluwish-green)สำหรับ สีที่เป็นที่นิยมจะเป็นสีฟ้าน้ำทะเล อะควอมาริน เป็นพลอยที่อยู่ในแร่ตระกูล เบริล (Beryl)ซึ่งเป็นแร่ตระกูลเดียวกับมรกตอะควอมารีน (Aquamarine) มีรากศัพท์มาจากภาษาละติน 2 คำคือ “Aqua” ซึ่งแปลว่าน้ำ และ “Mare” ซึ่งแปลว่า ทะเล จึงมีความหมายว่า “น้ำทะเล” เป็นการบ่งบอกถึงสีของอัญมณี ชนิดนี้ได้อย่างชัดเจน ตามความเชื่อโบราณเชื่อกันว่าอัญมณีชนิดนี้เป็นอัญมณีของเทพธิดา แห่ง ท้องทะเล นางเงือกทำให้กะลาสี , ชาวเรือ เชื่อกันว่าหากมีไว้ใน ครอบครองจะทำให้เดินทาง ทะเล ได้อย่างปลอดภัยและยังมีความเชื่อว่า อัญมณี ชนิดนี้ จะทำให้ผู้ ที่มีไว้เป็นผู้ที่มีจิตใจสงบไม่ ฟุ้งซ่าน มีความสุขกายสบายใจจึงเป็นที่นิยมสำหรับ คู่แต่งงานด้วยสำหรับราคาของ อะควอมารีน นั้นจะขึ้นอยู่กับความเข้มของสี ยิ่งมีความเข้มมากราคาก็จะ ยิ่งสูงแต่ทั้งนี้ยังต้องพิจารณาถึงตำหนิที่มีด้วยเพราะในธรรมชาติก้อนผลึกอะควอมารีน ส่วนใหญ่จะ ค่อนข้างบริสุทธิ์ ใส่ไม่ทึบหากอะควอมารินเม็ดใดมีตำหนิมาก ทึบแสงก็จะ มีราคาถูก

“ เพชร ” เป็นอัญมณีประจำเดือนเกิด ของผู้ที่เกิด เดือนเมษายน อัญมณีที่บ่งบอกถึง ความบริสุทธิ์ ความสมบูรณ์แบบ เพชรเป็นที่นิยมกันมากในทุกยุคทุกสมัยจากหลักฐานที่ปรากฎมีการค้นพบเพชรครั้งแรก ในประเทศ อินเดียเมื่อประมาณ 3,000 ปีมาแล้วและนับเป็นเวลาหลายศตวรรษที่เดียวที่ อินเดีย เป็นแหล่งเพชรดิบที่สำคัญ แห่งหนึ่งของโลก ในปี ค.ศ. 1866 มีการ ค้นพบ เหมือง เพชร ที่สำคัญ ในทวีปแอฟริกา หลังจากนั้นจึงเริ่มมีอุตสาหกรรรม การค้าเพชรกันอย่างแพร่หลายจวบจนปัจจุบัน นี้นอกจากเหมืองในทวีปแอฟริกา แล้วยังมีการค้นพบแหล่ง เพชรดิบ ในอีกหลายส่วน ของ โลกเช่น ประเทศรัสเซีย, ออสเตรเลีย, แคนาดา เป็นต้นคำว่า เพชร (Diamond) มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก “Adamas” ซึ่งหมายความว่าไม่ สามารถพิชิตได้ (Unconquerable) และในตำนานกรีกยังเชื่อกันว่า เพชรคือดวงดาว ที่ ล่วงหล่น ลงมาจากท้องฟ้า บ้างก็ว่าเพชร คือ หยดน้ำตาของเทพเจ้า แต่ในความเป็นจริงแล้วเพชร คือ ผลึก คาร์บอน ซึ่งมีคุณสมบัติ แข็งแกร่ง ทนทาน ใสบริสุทธิ์ ไม่มีสีเจือปน และยังไม่ทำ ปฏิกิริยากับกรด และ ด่างด้วยสำหรับเพชรที่นำมาใช้ทำเป็นเครื่องประดับนั้น จะมีเพียง 20 % ของปริมาณเพชรดิบที่ขุดได้ทั้งหมดที่เหลือจะมีคุณภาพ เพียงเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เท่านั้นเพชรที่นำมาใช้ทำเครื่องประดับนี้ก็จะมีการจำแนกตามคุณภาพของเพชรเม็ดนั้นๆโดย มีหลักเกณฑ์ในการพิจารณา ที่เรียกกันว่า 4’C ( Cutting , Color , Clarity , Carat weight) ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์สากลที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

เดือนพฤษภาคม อัญมณี แห่งความชุ่มชื่น และ ความสมบูรณ์ของมวลพฤกษาในฤดูใบไม้ผลิ นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่ามรกตเป็นอัญมณีแห่งความรักของคู่รักอีกด้วยทั้งนี้ก็เพราะว่ามรกตเป็นอัญมณีที่โปรดปราณของเทพธิดาวีนัส ซึ่งเป็นเทพธิดาแห่งความรัก (Goddess of Love) เชื่อกันว่า มรกตมีพลังอำนาจดลใจให้คู่รักมีความรักและซื่อสัตย์สุจริตต่อกัน หากวันใดที่ความรักจืดจากลง สีของมรกตก็จะจืดจางลงเช่นกันมรกต “Emerald” บ้างก็ว่ามีรากศัพท์มาจาก ภาษาเปอร์เซีย หรือ ภาษากรีกว่า “Smaragdos” หมายถึง หินที่มีสีเขียว ซึ่งในอดีตไม่ได้หมายถึงเฉพาะมรกต แต่ยังหมายถึงหินสี เขียวทุกชนิด มรกตเป็นอัญมณีที่อยู่ในตระกูลเบริล (Beryl) เช่นเดียวกับ อะควอมารีน โดยปกติ แล้วเบริลจะเป็นธาตุที่ใสไม่มีสี แต่มรกตมีสีเขียวก็เพราะมี ธาตุโครเมียม (Chrome) ปนอยู่ใน เบริล อัญมณีชนิดนี้จะค่อนข้างมีรอยแตก หรือ ที่เราเรียกว่าตำหนิ ในตัวมันเองค่อน ข้างมากจึงทำให้มรกตมีความเปราะบางแตกหักได้ง่ายแม้ว่าตัวมันเองจะมีความแข็งถึง 7.5-8 สเกลโมล (Mohs’ scale) ก็ตาม (เพชรมีค่าความแข็ง 10 สเกลโมล)

อัญมณีสำหรับเดือนมิถุนายนที่เป็นที่นิยมมีอยู่ 2 ชนิดได้แก่ ไข่มุก“ Pearl ”และ มุกดาหาร“Moonstone” ดูเหมือนว่าไข่มุกจะเป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมมากกว่าไข่มุก “Pearl” มาจากภาษาละติน “Pilula” แปลว่าลูกบอลในสมัยโบราณรู้จักไข่มุกในชื่อ ของ มาร์กา ไรต์ “Margarite” ซึ่งมาจากภาษากรีก “Margaritafera” ชื่อนี้หมายถึงหอยที่มีมุกฝังอยู่มีเรื่องเล่าต่อกันมาถึงที่มาของไข่มุกว่า ไข่มุกนั้นเกิดจากน้ำค้าง ที่หยดลงมา จากสวรรค์ ใน คืนวันพระจันทร์เต็มดวง และได้นำแสงอันอ่อนละมุนน่าพิศวงจากดวงดาวติดตัว มาด้วยบ้างก็ว่าไข่มุกเป็นหยดน้ำตาแห่งความปิติ ของเทพธิดาที่หลั่งออกมา ให้กับโชคชะตา ชีวิตของมวลมนุษย์ชาวฮินดูมีความเชื่อว่าไข่มุกเป็นอัญมณีแห่งความมั่งคั่งสมบูรณสีสันต่างๆ ของไข่มุกยัง แสดงถึงสัญลักษณ์ต่างๆ กันออกไป เช่น ไข่มุกขาว หมายถึง ความมีอุดมคติหรือความ เป็น เลิศ, ไข่มุกดำ หมายถึง ปรัชญา เป็นต้น ี้ยังไม่หมดนะครับ สำหรับเดือนมิถุนายน ยังมีมุกดาหาร“Moonstone”ซึ่งเป็นอัญมณีชนิดที่สองของเดือนนี้ “Moonstone” มากจากภาษาละติน “Luna” หมายถึง พระจันทร์ ทั้งนี้ก็เพราะว่าสีของ Moonstone จะออกลักษณะ ที่คล้ายกับ การเรืองแสงของดวงจันทร์คือจะ ออก เป็น ลักษณะ สีเรื่อๆ ไม่รุนแรง บาดตา เมื่อมองแล้วทำให้ ชวนหลงไหล กับความงามของมันในประเทศอินเดียเชื่อกันว่า Moonstone จะนำความโชคดีมาให้และถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นในสมัยโบราณ จึงไม่มีการซื้อขายกันโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชนิดที่มีสีเหลือง Moonstone เป็น อัญมณีในตระกูล เฟลสปา “Feldspar” ซึ่งเป็นธาตุที่ค่อนข้างเปราะ มีค่า ความแข็ง ประมาณ 6-6.5 โมลสเกล (Mohs’ scale) จึงทำให้ง่าย ต่อการเจียรไน เป็น รูปทรง ต่างๆ เพื่อใช้ทำเป็นเครื่องประดับประเภท จี้ , ต่างหู และเข็มกลัด เป็นต้น ปัจจุบันศรีลังกาเป็นแหล่งที่พบ“Moonstone” ที่มีคุณภาพมากที่สุด นอกจากนี้ยังพบใน ประเทศ พม่า และ อินเดีย ออสเตรเลีย บราซิล แต่คุณภาพ ก็ไม่สามารถเทียบกับ “Moonstone” ที่มากจาก ศรีลังกาได้ “Moonstone” ที่มีคุณภาพดี ตัวเนื้อจะค่อนข้างใส โปร่งแสง ไม่ทึบและจะ ต้องมีตำหนิน้อยที่สุด

อัญมณีสีแดงสด ทับทิม (Ruby) เป็นอัญมณีประจำเดือนเกิดของผู้ที่เกิด ในเดือน กรกฎาคม ทับทิม( Ruby ) มาจากภาษาละติน “Rubeus” แปลว่า สีแดง ส่วนรากศัพท์ เดิม มาจาก ภาษาสันสกฤตะ Ratnaraj” หรือ “Rajnapura” แปลว่าราชาแห่งอัญมณี ( King of Gems) เนื่องด้วย เพราะ ความสวยงามและความหายากนั่นเองกล่าวกันว่ามูลค่าของทับทิมบางเม็ดจะมีราคาสูงกว่าราคาของอัญมณีอื่นๆ แม้กระทั่งเพชรก็ตาม เช่น ในปี คศ.1988 มีการ ซื้อขายทับทิม เจียรไน น้ำหนัก 15.97 กะรัต ในราคา 3630000 us หรือ 227301 us ต่อกะรัต เลยทีเดียวทับทิม ( Ruby) เป็นอัญมณีในตระกูลคอลันดัม ( Corundum) เช่นเดียวกับ ไพลิน และบุษราคัมมีค่าความแข็งอยู่ที่ 8 ไมลสเกล ซึ่งจะเป็นรองก็เพียงแต่เพชร เท่านั้น จึงเหมาะ ที่จะนำมาใช้ทำเป็นเครื่องประดับ สำหรับการประเมินมูลค่าของทับทิม ปัจจัยแรกที่พิจารณา คือ เรื่องของสีเพราะเสน่ห์ของทับทิมจะอยู่ที่สีแดง ที่มีหลายเฉดด้วยกัน แต่เฉดสีที่นิยม และ หายาก ได้แก่สีแดงสดเพริดอต (Peridot)

อัญมณีสีเขียว ใสบริสุทธิ์ เป็นอัญมณีประจำเดือนเกิด ของคน เดือน สิงหาคมสีเขียวของเพริดอตบางครั้งเป็นที่รู้จักกันในนามEvenningemerald แต่อัญมณี ชนิดนี้ ไม่ใช้ธาตุชนิดเดียวกับมรกตเลยแม้แต่น้อย คนในสมัยโบราณเรียกพลอยชนิดนี้ว่าเป็น “ อัญมณีแห่งดวงตะวัน ” (The gem of the sun) เพราะ มีความเชื่อว่าเพริดอตมีอำนาจขับไล่ภูตผีปีศาจ และ ทำให้ผู้สวมใส่มีเสน่ห์ ในสมัย อียิปต์โบราณ รู้จักอัญมณีชนิดนี้ในชื่อ “Topazion” ซึ่งมีที่มาจากแหล่งที่ค้นพบ อัญมณี ชนิดนี้ ก็คือ เกาะ Topazos” หมายถึง การเสาะแสวงหา ปัจจุบันเกาะนี้ เรียกกันว่า เกาะ “Zarbagad” หรือ ในภาษาอาระบิกว่า “Peridot” ซึ่งมีความหมายว่า หินมีค่าหรือรัตนชาติ เพริดอตเป็นอัญมณีที่มีสีเขียวคล้ายสีของผลมะนาวเขียวอมเหลือง(Yellowish-Green)จนถึงสีเขียว เข้มอมน้ำนาล(Brownish–Green)ค่าความแข็งของอัญมณีชนิดนี้อยู่ที่ประมาณ6.5 โมลสเกล (Moh’s scale) จึงไม่ใช่อัญมณีที่แข็งมากนัก ดังนั้นผู้ที่ต้องการ จะเป็นเจ้าของ เครื่อง ประดับที่มีเพริดอตประดับอยู่จึงต้องระมัดระวังในการสวมใส่ และเก็บรักษาที่ดีพอสมควรทีเดียว

แซฟไฟร์ “Sapphire” อัญมณีประจำเดือนกันยายน Sapphire มาจากภาษาฮิบรู “Saffir” หรือ จากภาษากรีก “Sappheiros” หมายถึงสีน้ำเงิน “Blue” ซึ่งสมัยโบราณ จะเรียกอัญมณีที่มีสี น้ำเงินว่า แซฟไฟร์(ปัจจุบันหากพูดถึงแซฟไฟร์ “Sapphire”คำเดียวจะหมายถึง Blue Sapphire หรือ ไพลิน) แต่ในความเป็นจริงแล้ว Sapphire มีหลาก หลายสีเช่น สีเหลือง, ชมพู,ม่วง,เขียว เป็นต้น ดังนั้นหากเรา จะเรียกอัญมณีชนิดนี้ที่ไม่ใช่ สีน้ำเงิน แล้วจะต้องระบุ สีด้วย เช่น Yellow Sapphire(บุษราคัม),Green Sapphire (เขียวส่อง) ,Padparadsha Sapphire (พลอย สามสี) เป็นต้นชาวเปอร์เซียโบราณเชื่อกันว่าแซฟไฟร์ คือ “หินที่มาจากฟ้า” เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าโลก ตั้งอยู่บน แซฟไฟร์ ขนาดมหึมา จึงทำให้สะท้อนแสงแดด ออกไปสู่ท้องฟ้ามีสีน้ำเงิน นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีคนบางกลุ่ม เชื่อว่า แซฟไฟร์เป็นพลอยของกษัตริย์ที่ใช้สวมใส่เพื่อป้องกันภยันตรายและถือเอาอัญมณีชนิดนี้เป็นสัญลักษณ์ของความจริงใจ และมั่นคงอัญมณี

สำหรับผู้เกิดเดือนตุลาคมมีให้เลือกใช้ถึง 2 ชนิดคือ โอปอล Opalอัญมณีแห่งความหวังโอปอลเป็นอัญมณีที่มีสีสรรดั่งเช่น สีของสายรุ้ง นักประพันธ์ ชาวโรมันนาม ไพลนี “Pliny” ได้บรรยายความงาม ของสีสันต่างๆที่ผสมกลมกลืนรวมกันอยู่ในโอปอลว่ายามเมื่อมองเห็นโอปอล ราวกับ มองเห็นแสงไฟที่มีชีวิตของอะเมทิสต์, เขียวน้ำทะเล ที่สวยสดใส ของมรกต ร่วมกันส่องแสงเป็นประกายระยิบระยับ สวยสุดที่จะพรรณาOpal มีรากศัพท์จากภาษาสันสกฤต “ อูพาลา ” (Upala) แปลว่า " หินที่มีค่า " โอปอลเป็นอัญมณีที่ค่อนข้างเปราะแตกหักได้ง่ายจึงต้องระมัดระวังในการสวมใส่และเก็บรักษาอัญมณีอีกชนิดหนึ่งสำหรับผู้ที่เกิดเดือนตุลาคมคือทัวร์มารีน(Tourmaline)อัญมณีชนิดนี้มีมากมายหลายสี เช่น สีแดง, ส้ม, เหลือง, เขียว, น้ำเงิน, ม่วง, ดำหรือแม้กระทั่งไม่มีสีเลยก็ได้และสิ่งที่พิเศษสำหรับทัวร์มารีนก็คือสามารถ พบทัวร์มารีนที่มีสีตั้งแต่ 2 สี จนถึงหลายสีได้ ในเม็ดเดียวกัน เช่น Water melon ทัวร์มารีนซึ่งจะมีสีชมพูอยู่บริเวณด้านในล้อมรอบด้วยสีเขียวบริเวณ ขอบเม็ดดูเหมือนผลแตงโมนั่นเองทัวร์มารีนมีรากศัพท์มาจากภาษาสิงหล (Sinhalese) คำว่า “Turmali” “ทรูมาลี” มีความ หมายว่า อัญมณีที่มีสีผสมกัน “Stone of mixed colours” ค่าความแข็งของ ทัวร์มารีน จะอยู่ที่ประมาณ 7-7.5 โมลสเกล จึงค่อนข้างแข็งสามารถนำมาทำเป็นเครื่องประดับได้หลายชนิด ทัวร์มารีนจะมีชื่อเรียกเฉพาะในแต่ละเฉดสีด้วยเช่น “รูบิไลต์” (Rubellite) (Deep pink to red to violet red) , “ อินดิโคไลต์” (Indicolite) (indigo blue and greenish blue) เป็นต้นอัญมณี

สำหรับผู้ทีเกิดเดือน พฤศจิกายนจะเป็นอัญมณี ที่มีสีเหลืองอันเป็นสัญญาลักษณ์ แห่ง ฤดใบไม้้ร่วงซึ่งมีอยู่ 2 ชนิด คือ โทแพซ (Topaz) และ ซิทริน (Citrine) นั่นเองโทแพซ (Topaz) เป็นอัญมณีที่มีอยู่หลายเฉดสี แต่ในอดีต เมื่อกล่าวถึงโทแพซ จะหมายถึง อัญมณีที่มีสีเหลือง คำว่า "โทแพซ" มาจากภาษากรีกโทแพเซียน “Topazian” หมายถึงการเสาะแสวงหาต่อมากลายเป็นชื่อเกาะ ที่พบอัญมณีชนิดนี้ก็คือ เกาะโทแพซอส “Topazios” ซึ่งตั้ง อยู่ในทะเลแดง ปัจจุบันเกาะนี้มีชื่อเรียกว่า ซีเบอร์เกต (Zebirget)ซีทริน(Citrine)เป็นอัญมณีที่มีสีเหลืองจนถึงสีเหลืองส้มเชื่อกันว่าซีทริน เป็นอัญมณีแห่งการปกป้องและการรักษา คำว่าซิทรินนี้มาจากภาษาฝรั่งเศส“Citron”แปลว่ามะนาว(lemon) เพราะสี ของอัญมณีชนิดนี้นั่นเองบางครั้งจะเกิดการสับสนระหว่างโทแพซที่มีสีเหลืองกับซิทรินว่าเป็น อัญมณีชนิดเดียวกันแต่ที่จริงแล้วต่างกันโดยสิ้นเชิง ซิทรินเป็นแร่ควอทซ์ (Quartz)เช่นเดียวกับอเมทิสต์(Amethyst)แต่เป็นควอทซ์ชนิดที่มีสีเหลืองในการจำแนกโทแพซและซิทรินนั้น จะใช้ค่าความแข็งเป็นตัวบ่งชี้ซิทรินจะมีค่าความแข็งอยู่ที่ 7 โมลสเกล ส่วน โทแพซจะอยู่ที่ 8 โมลสเกลเทอร์คอยซ์ หรือ พลอยขี้นกการะเวก (Turquoise)

อัญมณีสีฟ้า สำหรับผู้ที่เกิด เดือน ธันวาคมเป็นอัญมณีที่รู้จักกันมากว่า 5,000 ปีแล้ว (3,000 BC) ตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณส่วนคำว่า เทอร์คอยซ์ มาจากคำในภาษาฝรั่งเศส “ Pierre turquoise” ซึ่งหมายถึง “ Turkey stone” หรือ หินตุรกี สาเหตุมาจากเส้นทางการนำอัญมณีชนิดนี้สู่ดินแดนยุโรป โดยผ่านทางประเทศตุรกี ในช่วง ศตวรรษที่ 13 นั่นเอง ในอดีตเทอร์คอยซ์มีแหล่งที่มาจากเหมืองในแถบเปอร์เซีย ชาวเปอร์เซียเชื่อกันว่า เทอร์คอยซ์ เป็นอัญมณีแห่งโชคลาภ ผู้ที่ได้สวมใส่หรือครอบครองจะมีโชคแม้ในยามอยู่ในนิทราปัจจุบัน แหล่ง เทอร์คอยซ์ที่สำคัญ จะมาจากแถบพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอเมริกาอินเดียนแดงเผ่าอปาเช่ เรียกอัญมณีชนิดนี้ว่า ดุคลิจ (Duklij) ถือเป็นพลอยที่มีค่า นำมา ใช้เป็นเครื่องลางสีที่เป็นที่นิยมของเทอร์คอยซ์ก็คือสีฟ้าของท้องฟ้า (Sky blue) คล้ายกับสีฟ้าของ นกโรบิน